หอการค้าสมุทรสาคร จับมือ สภาอุตสหกรรมสมุทรสาคร แถลงข่าวโครงการ “รวมใจรักษ์สมุทรสาคร” เร่งประสานโรงงานในพื้นที่สีเขียวส่งพนักงานเข้าตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบ Pooled Saliva Testing ตั้งเป้า 30,000 ราย ในหนึ่งสัปดาห์ เน้นข้อดีประหยัด รวดเร็ว ช่วยภาครัฐสกรีนพื้นที่ได้ตามเป้าหมาย รองรับแผนปลดล็อกอำเภอบ้านแพ้ว อำเภอกระทุ่มแบน 

วันที่ 25 ม.ค.64 ที่ห้องประชุม 201 ศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร นายอภิสิทธิ์ เตชะนิธิสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย นายชาธิป ตั้งกุลไพศาล รองประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรสาคร ร่วมแถลงข่าวการจัดทำโครงการ “รวมใจรักษ์สมุทรสาคร” โดยมี ผู้เกี่ยวข้อง และสื่อมวลชนเข้าร่วม

โครงการ “รวมใจรักษ์สมุทรสาคร” เป็นโครงการที่ภาคเอกชนร่วมผลักดันแนวทางของภาครัฐ ในการตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 เชิงรุก สำหรับสถานประกอบการที่อยู่ในจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งจะเริ่มต้นในพื้นที่โซนสีเขียวก่อน โดยให้โรงพยาบาลเอกชน หรือสถานพยาบาลในพื้นที่ซึ่งสามารถตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในรูปแบบ Pooled Saliva Testing หรือการตรวจน้ำลายโดยรวมตัวอย่างทดสอบได้ ซึ่งเป็นรวมน้ำลายกลุ่มเป้าหมาย 5 คน แล้วนำไปตรวจสอบเพื่อหาเชื้อโควิด-19 เพื่อลดระยะเวลาการตรวจ และค่าใช้จ่ายในการตรวจของผู้ประกอบการ 

หากพบเชื้อโควิด-19 ในน้ำลายกลุ่มตัวอย่าง ทางภาครัฐก็จะเข้าทำการตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่หากไม่พบเชื้อก็จะทำให้สามารถจำกัดพื้นที่เสี่ยงได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยการตรวจแบบ Pooled Saliva Testing จะมีประสิทธิภาพในพื้นที่สีเขียว หรือพื้นที่ไม่พบเชื้อโควิด -19 ซึ่งจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน และทำให้ภาครัฐสามารถปลดล็อคกิจกรรมต่างๆในพื้นที่สีเขียวได้เร็วและสะดวกมากยิ่งขึ้น 

ทั้งนี้มีการหารือในที่ประชุมระดับจังหวัด โดยมีการตั้งเป้าการตรวจด้วยระบบ Pooled Saliva Testing ภายในหนึ่งสัปดาห์ให้ได้จำนวน 30,000 ราย ในพื้นที่สีเขียวของอำเภอบ้านแพ้ว และอำเภอกระทุ่มแบน เพื่อยืนยันตัวเลขในการปลดล็อคพื้นที่ 

โครงการ “รวมใจรักษ์สมุทรสาคร” หรือตรวจ Pooled Saliva Testing  ส่วนหนึ่งจะได้รับการช่วยเหลือจากส่วนกลาง ในการส่งทีมแพทย์ทหารเข้ามาตรวจหาเชื้อในพื้นที่รวมกับทางจังหวัดสมุทรสาคร โดยมีเป้าหมายเพื่อเปิดพื้นที่สีเขียวบางส่วนให้เร็วขึ้น สำหรับค่าใช้จ่ายในการตรวจ Pooled Saliva Testing อยู่ที่คนละไม่เกิน 500 บาท 

ในส่วนของการขับเคลื่อนโครงการ “รวมใจรักษ์สมุทรสาคร” ให้สำเร็จเป็นรูปธรรม ภาคเอกชนได้มีการตั้งคณะทำงานร่วมกับภาครัฐ โดยจะเร่งประสานไปยังโรงงาน สถานประกอบการต่างๆ ทั้งในพื้นที่สีแดงและพื้นที่เขียวให้ส่งพนักงานเข้ามาตรวจให้ได้ตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ และให้เสณ้จสิ้นภายในสัปดาห์นี้หรืออย่างช้าสุดคือต้นสัปดาห์หน้า