วันที่ 20 มีนาคม 2567 ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร นายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ นายก อบจ.สมุทรสาคร พร้อมด้วย นายอภิชาต โพธิ์ถนอม รองนายก อบจ.สมุทรสาคร และ นายจอม หงษ์เวียงจันทร์ รองนายก อบจ.สมุทรสาคร ได้ร่วมกันมอบเงินอุดหนุนให้กับการประปาส่วนภูมิภาค เขต 3 จำนวน 8,138,500 บาท สำหรับดำเนินโครงการวางท่อขยายเขตจำหน่ายน้ำ บริเวณหมู่ที่ 1 หมู่ที่ 6 และ หมู่ที่ 8 ตำบลหนองบัว อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งอยู่ในพื้นที่ความรับผิดชอบของเทศบาลตำบลหลักห้า โดยมี นางสาวอารีนันท์ นราวัฒนเศรษฐ์ ผู้ช่วยผู้จัดการ การประปาส่วนภูมิภาค เขต 3 และคณะเป็นผู้รับมอบ พร้อมด้วย นายพงศธร ลิมปนเวทย์สกุล ประธานเทศบาลตำบลหลักห้า ร่วมเป็นสักขีพยาน

 นายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ เปิดเผยว่า ตามที่ทางเทศบาลตำบลหลักห้า ได้ร่วมกับ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำท้องที่ จัดประชุมเวทีประชาคม เพื่อรับฟังความคิดเห็นของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ความรับผิดชอบนั้น ปรากฏว่า มีประชาชนหมู่ที่ 1,6,8 ของตำบลหนองบัวฯ ร้องขอให้ทางการประปาส่วนภูมิภาค มีการขยายเขตจำหน่ายน้ำเข้ามา เพื่อประชาชนจะได้ใช้ประโยชน์ทั้งทางด้านการอุปโภคและบริโภค เพราะปริมาณน้ำบาดาลที่มีอยู่นั้น บางครั้งไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน และบ่อน้ำบาดาลบางบ่อก็มีความเก่าชำรุดทรุดโทรม จนไม่สามารถรองรับน้ำเพื่อการอุปโภค – บริโภคได้อีก ทั้งนี้ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจึงได้มีการหารือร่วมกัน เพื่อหาแนวทางบรรเทาทุกข์ให้กับพี่น้องประชาชนตามที่ได้ร้องขอมา 

 โดยทาง อบจ.สมุทรสาคร จะให้การสนับสนุนเงินอุดหนุนกับการประปาส่วนภูมิภาค เขต 3 จำนวน 8,138,500 บาท ตามโครงการวางท่อขยายเขตจำหน่ายน้ำ บริเวณหมู่ที่ 1 หมู่ที่ 6 และ หมู่ที่ 8 ตำบลหนองบัว อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร จากนั้นการประปาส่วนภูมิภาค เขต 3 ก็จะต้องไปดำเนินการตามระบบ หาผู้จัดซื้อจัดจ้างและทำการขยายเขตจำหน่ายน้ำประปาต่อไป 

 ส่วนเทศบาลตำบลหลักห้า จะมีหน้าที่ในการสำรวจความจำเป็นเร่งด่วนของแต่ละพื้นที่ โดยรับเรื่องจากทางกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งหากพบหมู่บ้านใดที่ต้องการให้ กปภ.เข้ามาดำเนินการเร่งด่วนก่อน ก็จะทำหนังสือไปยัง กปภ.เขต 3 ทันที โดยเบื้องต้นขณะนี้พบว่า มีพื้นที่หมู่ที่ 1 ตำบลหนองบัวฯ ที่จำเป็นต้องขยายเขตจำหน่ายน้ำให้เร็วที่สุด เพราะบ่อน้ำบาดาลที่มีอยู่เดิมทั้งหมด 3 บ่อ เกิดทรุดโทรมเสียหายจนไม่สามารถซ่อมแซมได้จำนวน 1 บ่อ จึงทำให้บางช่วงเวลาปริมาณน้ำมีไม่เพียงพอต่อความต้องการของพี่น้องประชาชนในพื้นที่